เมืองและสถานที่สำคัญ
|
||||||||
กรุงเยรูซาเล็ม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญในสมัยโบราณแห่งหนึ่งมีส่วนร่วมในชีวิต ของพระเจ้าในเหตุการณ์สำคัญ และจะเป็นอาณาจักรที่สำคัญในอนาคต กรุงเยรูซาเล็ม ตั้งอยู่บนยอดเขายูดาห์ ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางทิศตะวันออก 33 ไมล์ |
||||||||
![]() |
||||||||
|
||||||||
![]() |
||||||||
สถานที่น่าสนใจรอบกรุงเยรูซาเล็ม |
||||||||
|
||||||||
เทลอาวีฟ เป็นเมืองแรกของชาวยิวตั้งแต่สมัยพระคัมภีร์ ก่อตั้งขึ้นในคริสตศักราช 1908 มี ครอบครัวชาวยิวอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อยได้เข้ามาจากยัฟฟา (ท่าเรืออารบาในสมัยโบราณ) ทั้ง 2 เมืองได้รวมกันเป็นเมืองเดียวกัน และ ได้ปกครองตนเองใน ค.ศ.1950 จากเมืองหลวงในอิสราเอล มีเนื้อที่เป็น 2 เท่า ตั้งแต่มีการปกครองอย่างอิสระ |
||||||||
![]() |
||||||||
จุดศูนย์กลางดั้งเดิมของเทลอาวีฟ คือ โรงกายกรรม Herzlia Gymnasium พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะบ้านพักนายกเทศมนตรี ถนนสายสำคัญ (อัลเลนบี โรด) เป็นเส้นทางที่ถูกถมเสียส่วนใหญ่มีอาคารพาณิชย์มากมายและวิหารมากกว่า 400แห่ง เทลอาวีฟเป็นศูนย์กลางแห่งมหาวิทยาลัยการศึกษามีวิทยาลัยและสถาบันต่าง ๆ มากมายมีศูนย์กลางคมนาคมอยู่ที่นี่คือ การรถไฟ ท่าเรือ ท่าอากาศยาน การธนาคาร การประกันภัย และเป็นจุดศูนย์กลางของการอุตสาหกรรมด้วย |
||||||||
ซีซารียา ซีซารียาบนทะเล เป็นเมืองที่ถูกค้นพบ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเล เมดิเตอร์เรเนียนระหว่างท่าเรือไฮฟาและเทลอาวีฟ ก่อตั้งเมื่อก่อน ค.ศ.250 เป็นเมืองที่มีความสำคัญเมื่อประมาณก่อน คศ.22 ภายใต้การปกครองของ กษัตริย์เฮโรดมหาราช เป็นที่ตั้งของบ้านนายร้อยโดเนริอัส (กจ 10:1-33 ) เปโตรได้มาประกาศและพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จลงมา ( กจ 10:44-48) ที่เมืองนี้เฮโรดถึงแก่ความตายมีตัวหนอนกัดกินร่างกายของท่าน (กจ 12:13 - 23) เปาโลได้เดินทางมาหลายครั้งที่นี่ (กจ 9:30, 18:22) เปาโลเผชิญหน้ากับเฟสตัสเฟลิคและอากริปปาที่นี่ (กจ25:13-27) ฟิลิปได้ประกาศข่าวประเสริฐมาจนถึงเมือซีซารียา(กจ 8:40) |
||||||||
ยัฟฟา ยอพพา ยาโฟ เป็นมรดกส่วนหนึ่งของเผ่าดาน (ยชว 19:46) ระหว่างสมัยกษัตริย์ซาโลมอน กลายเป็นเมืองท่าเรือของกรุงเยรูซาเล็ม ต้นสนสีดาห์จากเลบานอนได้ถูกลอยแพมาถึงท่าเรือยัฟฟา เพื่อการก่อสร้างพระวิหาร (2 พศด 2:16, อสร 3:7) โยนาห์ได้ลงเรือจากยัฟฟาไปทารชิช (โยนา 1:3) ในหนังสือกิจการได้กล่าวถึง โดรคัส (ทาบิธา) ฟื้นจากความตาย โดยการอธิษฐานของเปโตร (กจ 9:36 - 42) ซีโมนบ้านช่างฟอกหนัง ซึ่งเปโตรได้เข้าสู่ภวังค์เห็นท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง มีอะไรอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่มีสัตว์ทุกอย่าง โดรเนลิอัสเป็นสุภาพบุรุษคนแรก ที่บังเกิดใหม่ ซึ่งได้รับการทรงนำจากพระเจ้าเป็นผลต่อเนื่องกับเปโตรที่ได้เห็นนิมิต (กจ9, 10)ชาวยิวจากยัฟฟาได้เคลื่อนไปทางเหนือและได้ก่อตั้ง เทลอาวีฟ ในค.ศ. 1909 ในค.ศ.1950 ยัฟฟาและเทลอาวีฟเป็นเมืองแฝด |
||||||||
![]() |
||||||||
ไฮฟา เมืองที่เกิดขึ้นระหว่างการสร้างพระวิหารครั้งที่ 2 ถูกยึดครั้งสมัย สงครามคูเสดในปี 1100 และต่อมายึดครองโดยพวกเตริกส์ในปี 1517 ปี 1868 เยอรมันมาตั้งถิ่นฐาน | ||||||||
ภูเขาคารเมล "เต็มด้วยทุ่งนา" มีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยมอยู่ห่างจากท่าเรือ ไฮฟาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 13 ไมล์ ภาพที่ถูกบรรยายถึงลักษณะ ความมั่นคงรุ่งเรืองในพระคัมภีร์ (2 พศด 26:10) มีประชากรเบาบางทางที่ลาดทิศตะวันตก และมีถ้ำที่บรรจุ วัฒนธรรมยุคหิน ซึ่งถูกค้นพบต่อมาได้กลายเป็นที่อยู่ของพวกฤาษี ดินแดนที่โยชูวาได้ยึดและได้ชัยชนะ (ยชว 12:22) ในสมัยโบราณเป็นสถานที่ ศักดิ์สิทธิ์ พระบาอัลของคนคานาอัน รวมทั้งรูปเคารพต่าง ๆ เป็นที่ซึ่งเอลียาห์ ได้ทำลายพระบาอัล ต่อสู้ด้วยไฟ (1พกษ 18:19 - 40) การเข่นฆ่าพระบาอัลเกิดขึ้นที่ห้วยคีโชน เอลียาห์ได้วิ่งตามมาที่เชิงเขา หลังจากนั้น เอลียาห์ได้อธิษฐานและสั่งคนใช้ให้ขึ้นไปภูเขามองไปทางทะเลเพื่อขอฝน เมื่อมองดูเป็นครั้งที่ 7 เขาเห็นเมฆก้อนหนึ่ง ( 1 พกษ 18:41 - 46) เอลียาห์ได้ทำให้บุตรชายของหญิงคนหนึ่งเป็นขึ้นมาจากความตาย ( 2 พกษ 4:25) |
||||||||
นาซาเร็ธ อยู่ทางใต้ของหุบเขากาลิลี อยู่กึ่งกลางระหว่างทะเลสาบกาลิลีและ เมดิเตอร์เรเนียน ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกเมื่อครั้งที่ทูตสวรรค์มาประกาศกับนางมารี (ลก 1:26) เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างจะมืดมน ไม่เป็นที่รู้จัก จนกระทั่งพระคัมภีร์ได้บันทึก พระกุมารเยซู (ลก 2:51,52) ที่นี่พระเยซูได้เทศนาเป็นครั้งแรก ชาวยิวไม่ต้อนรับ พระองค์ ( ลก 4 : 16) ประชาชนค้นหาและคอยจับพระองค์ พระเยซูคริสต์กลับมา ที่นาซาเร็ธอีกครั้งแต่ไม่ได้กระทำการอัศจรรย์มาก เพราะประชาชนไม่มีความเชื่อ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Church of Annunciation |
||||||||
คานา พระเยซูทรงทำการอัศจรรย์ครั้งแรกที่หมู่บ้าน ทรงกระทำให้น้ำกลายเป็นน้ำองุ่น (ยน 2 : 1-12, 4 : 46-54) |
||||||||
เมืองทิเบเรียส สร้างโดยกษัตริย์เฮโรด แอนทิพัส ในค.ศ.24 ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ ทิเบเรียสซีซาส์ อยู่ทางทิศตะวันตกช่วงกลางตอนล่างของทะเลกาลิลี พระเยซูได้เลี้ยงคน 5,000 คนที่นี่ (ยน 6: 1, 23, 21 : 1) เป็นเมืองหนึ่งในเก้าเมือง ที่มีพลเมืองประมาณ 1,500 คน หรือมากกว่านั้นในสมัยพระเยซูแต่ก็ไม่ได้เป็น เมืองนำหน้า จนกระทั่งการทำลายกรุงเยรูซาเล็ม โดยชาวโรมันในค.ศ. 70 เป็นที่ชาวปาเลสไตน์ทาลมุดถูกรวบรวม |
||||||||
![]() |
||||||||
ทะเลกาลิลี วินเนอเร็จ เยนเนซาเรท ทิเบเรียส คินเนเรท ทะเลนี้ยาว 12 ไมล์ ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 686 ฟุต เนื่องจากความสูงของภูเขารอบทะเลสาบ จำนวนมากทำให้อุณหภูมิแตกต่างกัน เป็นเหตุให้ดวงอาทิตย์ขึ้นเร็ว พายุรุนแรง ทะเลสวยงามแห่งนี้มีบทบาทสำคัญต่อสาวกของพระเยซูเจ้า พระเยซูคริสต์ทรงใช้ชีวิตในโลกรอบทะเลนี้ถึง 2 ส่วน 3 ของชีวิต พระคัมภีร์เดิมเรียกว่า คินเนเรท (กดว34:11, ยชว 12:3) ปัจจุบันถ้าเรียกชื่อดังกล่าวก็เหมือนกัน มีความหมายว่า "พิณ" ดูตามแผนที่รูปร่างคล้ายพิณ ต่อมาเรียกชื่อ เยนเนซาเรท (ลก 5:1) เมื่อกษัตริย์เฮโรด แอนทิพัสสร้างทิเบเรียส ทะเลนี้จึงเป็นที่รู้จัก และเรียกว่าทะเลทิเบเรียส (ยน 6:1, 23, 21:1) ชื่อที่รู้จักกันดีที่สุดคือ ทะเลกาลิลี (มธ 4:18, 15:29, มก 1:16, 7:31, ยน 6:1) |
||||||||
![]() |
||||||||
พระเยซูทรงเรียกชาวประมง 4 คน คือ เปโตร แอนดรู ยากอบ และยอห์น ที่ชายทะเลกาลิลี (มธ 4:18-22) เผ่ากาดได้ตั้งอยู่บนทะเลนี้ (ฉธบ 3:17, ยชว 13:27) พระเยซูทรงห้ามพายุ (มธ 8:23 - 27 มก 4:35-41, ลก 8:22-25) พระเยซูทรงดำเนินบนทะเล (มธ 14:22-23 มก 6:45-52, ยน 6:16-21) พระเยซูทรงรักษาคนเป็นจำนวนมาก (มธ15:29-31, มก 1:29-45) พระเยซูทรงเลี้ยงคน 5,000 คน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเล (มธ 14:17, มก 6:52, ลก 9:16, ยน 6:11) พระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขา Beatitudes เหนือที่ราบเยนเนซาเรท ทางทิศตะวันตกของ ทะเลกาลิลีซึ่งเป็นสัญลักษณ์เมื่อพระเยซูทรงเทศนาสั่งสอนบนภูเขา (มธ 5-7) |
||||||||
คาเปอรนาอุม ชื่อเต็มคือ ฮิบบรู คาเปอรนาฮูม หมายถึง หมู่บ้านนาฮูมเป็นคำเดียวกับ ภาษากรีกแต่ก็ไม่ใช่คนเดียวกับผู้เผยพระวจนะ นาฮูม เมืองนี้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงใน พระคัมภีร์เดิม เป็นเมืองที่มีความสำคัญในสมัยพระเยซูคริสต์ เป็นเมืองที่มีความ สำคัญต่อชาวโรมันด้วยเพราะเป็นด่านเก็บภาษี |
||||||||
|
||||||||
ทำด้วยหินปูนที่ดีที่สุดในปาเลสไตน์ ได้รับการซ่อมแซมโดย เซนต์ ฟรานซิส ออกัสติน แฟร์ ในศตวรรษที่ 2 และ 3 น่าจะเป็นพระวิหารเดียวกันกับ ที่พระเยซู ได้ปรนนิบัติพระเจ้า |
||||||||
|
||||||||
รวมทั้งการรักษาคนจำนวนมาก (มธ 8:16-17) พระเยซูคืออาหารแห่งชีวิตของคน ทั้งปวงที่ได้รับความรอด(ยน 6:24-42) ทั้ง ๆ ที่พระองค์เป็นความสว่างที่คาเปอรนาอุม คนเหล่านั้นก็ยังอยู่ในความบาป และต้องตกในการพิพากษา (มธ 11:23 - 24, ลก 10:15) การตัดสินนี้ได้เป็นจริงไปแล้ว และปัจจุบันไม่เป็นอย่างนั้นอีก |
||||||||
ทับกา พระเยซูเลี้ยงอาหารคน 5,000 คน ด้วยขนมปัง 5 ก้อนกับปลา 2 ตัว มัทธิว 14.19 | ||||||||
![]() |
||||||||
แม่น้ำจอร์แดน เป็นแม่น้ำเดียวในโลกที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 400 ม: มีความยาว ประมาณ 200 ไมล์ ปกคลุมพื้นที่ประมาณ 65 ไมล์ กว้างประมาณ 100 ฟุต ที่แม่น้ำนี้มีการอัศจรรย์ของพระเจ้าหลายครั้ง (ยชว 3 : 13 - 17, 2 พกษ 2 :6 - 8 , 2 พกษ 2 : 12 - 15) นาอามานชำระตัวให้หายจากโรคเรื้อนในแม่น้ำ 7 ครั้ง (2 พกษ 5 : 10 - 14) เอลีชาทำให้หัวขวานลอยน้ำได้ (2 พกษ 6 : 4 - 7) พระเยซูคริสต์ได้รับบัพติสมาในแม่น้ำนี้ (มธ 3 : 13 - 17) |
||||||||
เยรีโค ตั้งอยู่ในหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ ทางทิศเหนือของทะเลตาย และทางตะวันตก ของแม่น้ำจอร์แดน ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 17 ไมล์ เมืองนี้แบ่งเป็น 3 สมัย สมัยเก่า สมัยใหม่ และสมัยปัจจุบัน ผู้สอดแนมเมืองเยรีโคได้การคุ้มครองจากนางราหับ (ยชว 2 : 15 - 23) เมืองเยรีโคคือเมืองแห่งต้นปาล์ม (กดว 26 : 3, 63) เป็นกำแพงเมืองที่ปกครองโดยกษัตริย์ (ยชว 2 : 2 - 3) โยชูวาส่งคนสอดแนม (ยชว 2 : 1 - 15) กำแพงเมืองเยรีโค ล่มภายหลังการเดินของทหารอิสราเอล 3 รอบ (ยชว 6 : 13 - 17,26) เป็นเมืองของเบนยามินและมนัสเสห์ (ยชว 16 : 1 - 7, 18 : 11 - 12) ศักเคียสได้รับการเปลี่ยนแปลง (ลก 19 : 1 - 27) พระเยซูคริสต์ทรงรักษาคนของบารทิเมอัส และเพื่อนของเขา (มธ 20 : 29 - 34, มก 10 : 46 - 52, ลก 18 : 35 - 43) |
||||||||
คุมราน พระคัมภีร์เก่าแก่ได้ทำให้เมืองคุมรานมีชื่อเสียง เมืองนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ของเอนเกดี 13 ไมล์ห่างจากเยรีโคทางทิศใต้ 10 ไมล์ ในศตวรรษที่ 1 และ 2 ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลตายส่วนมากใช้ชีวิตในทางธรรม คุมรานเป็นเมืองหนึ่งในจำนวนหลายเมือง ในฤดูร้อนปี 1947 พระคัมภีร์เก่าแก่ เดดซีสโคลได้ถูกค้นพบโดยเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่ง เป็นการค้นพบที่มีความสำคัญ ต่อทางโบราณคดีมากที่สุดในศตวรรษที่ 12 |
||||||||
เมกิดโด อมาเกโดน เป็นจุดการต่อสู้ของคนคานาอัน เมืองซึ่งมองข้ามหุบเขายิสเรเอล โยชูวาและอิสราเอลไม่สามารถควบคุมได้ (ยชว 17 : 11-16) ไซเซราและกองทัพของเขาพ่ายแพ้ที่นี้ (ผวฉ 12 : 1) กษัตริย์โยสิยาห์เสียชีวิตหลังจาก ต่อสู้กับกษัตริย์แห่งอียิปต์ใกล้ที่ราบเมกิดโด (2 พศด 35 : 20-24) กษัตริย์อาหัสห์ถูกปลงพระชนม์ (2 พกษ 9 : 27) สงครามมากมายเกิดขึ้นที่นี่ และวิวรณ์ 16:13-16 กล่าวว่าในวาระสุดท้ายจะเกิดสงครามอันยิ่งใหญ่ที่อารมาเกดโดน ภูเขาเมกิดโด |
||||||||
ทะเลตาย ทะเลเกลือ ทะเลเรียน ทะเลอารบาห์ ทะเลนี้ยาว 47 ไมล์ กว้าง 10 ไมล์ ลึก 1,278 ฟุต อยู่จุดต่ำสุดของโลกประกอบด้วยแร่ 27% การระเหยของน้ำแต่ละวัน 7 ล้านตัน การระเหยนี้เกิดขึ้นภายหลังการบรรจุของแร่ความเค็มของน้ำในทะเลมีมากกว่า ในมหาสมุทรถึง 5 เท่า ปลาจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ |
||||||||
|
||||||||
ในหุบเขานาเกลือ ดาวิดได้ฆ่าชาวเอโดมถึง 18,000 คน (1 พศด 18 : 12) อามาสิยาห์ได้ประหารชีวิตชาวเอโดม 10,000 คน (2 พกษ 14 : 7, 2 พศด 25 : 11) ในอนาคตจะเป็นสถานที่เกิดผลมากกว่าในอดีต ในสมัยพระคัมภีร์เดิม ทะเลตาย เป็นเพียงทะเลสาบน้ำจืดขนาดเล็กก่อนที่พระเยซูจะเสด็จมาในโลก น้ำในทะเลสาบ ได้ไหลมาจากแม่น้ำแห่งชีวิต ประกอบด้วยปลานานาพันธุ์ (อสค 47 : 7 - 12) |
||||||||
![]() |
||||||||
เบธเลเฮม (เอฟราธาห์) มีความหมายว่า "บ้านขนมปัง" อยู่ห่างจากทางใต้ของ กรุงเยรูซาเล็ม 6 ไมล์ เมืองที่นางรูธได้พบกับโบอาส (นรธ 1 : 2 - 4) กษัตริย์ดาวิดเกิดที่นี่และได้รับการเจิมแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ (1 ซมอ 16 : 1 - 14, 17 : 12) เมื่อดาวิดถูกล้อมด้วยกองทหารชาวฟิลิสเตีย ทหารของดาวิดได้แหกค่าย คนฟิลิสเตียเพื่อตักน้ำให้พระองค์ดื่ม (2 ซมอ 23 : 1 - 17) มีคาห์ได้ทำนายถึง พระมาซีฮาจะเกิดที่นี่ (มคา 5: 2) พระเยซูคริสต์บังเกิดที่นี่ (มธ 1: 18 - 25, ลก 2 : 1 - 7) คนเลี้ยงแกะได้เยี่ยมพระกุมารเยซู (ลก 2 : 8 - 20) นักปราชญ์ได้มา นมัสการพระกุมารเยซู (มธ 2 : 1 - 12) กษัตริย์เฮโรดได้ฆ่าเด็กผู้ชาย (มธ 2 : 1 - 12) ทูตสวรรค์มาปรากฏแก่โยเซฟ บอกให้เขาหนีไปอียิปต์ (มธ 2 : 13 - 23) หลุมศพของราเชลอยู่ตรงทางเข้าของเบธเลเฮม ที่นี่ยาโคบได้ฝังศพภรรยาสุดที่รัก ของเขา นางได้ถึงแก่ความตายระหว่างเดินทางมาที่เบธเลเฮม และได้ให้กำเนิดบุตร ชื่อ เบนยามิน (ปฐก 35 : 10 - 20) |
||||||||
ภูเขาซีโยน หมายถึง ป้อมปราการ ครั้งหนึ่งเป็นนครที่มีกำแพงล้อมรอบเก่าแก่ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มุมของนครที่มีกำแพงล้อมรอบที่ซีโยนมีหลุมศพเก่าแก่ ของกษัตริย์ดาวิด ส่วนข้างบนเป็นห้องชั้นบนเชื่อว่าเป็นห้องรับประทานอาหารมื้อ สุดท้ายของพระเยซูคริสต์ (มก 14 : 12 - 16, ลก 22 : 7 - 13) และเป็นที่รวมกัน ของสาวก 120 คน เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาในวันเพ็นเทคศเต (กจ 1 : 12 - 15, 2 : 1 - 4) บ้านของคายาฟาสอยู่บนภูเขานี้ |
||||||||
ภูเขามะกอกเทศ อยู่ระหว่างกรุงเยรูซาเล็มและหุบเขากิดโรน กษัตริย์ดาวิด ได้หนีขึ้นไปตามทางขึ้นภูเขามะกอกเทศ ระหว่างการคิดกบฏของ อับซาโลม (2 ซอม 15 : 30) กษัตริย์ซาโลมอนสร้างรูปเคารพ ซึ่งต่อมาโยสิมาห์ ได้ทำลายสิ่งเหล่านี้ลง (2 พษก 23 : 13,14) ที่นี่เอเสเคียลได้เห็นนิมิตพระสิริของ พระเจ้าปรากฏ (อสค 10 : 4,19 , 11 : 23) ระหว่างงานเทศกาลอยู่เพิงของวันบริสุทธิ์ เอสราได้สั่งให้ประชาชนออกไปเก็บกิ่งมะกอกเทศ (นหม 8 : 15) นิมิตของเศคาริยาห์ ภูเขามะกอกเทศถูกแยกเป็น 2 ส่วน (ศคย 14 : 4 - 8) พระเยซูคริสต์เสด็จเข้ากรุง เยรูซาเล็มอย่างผู้พิชิตถึงภูเขามะกอกเทศ (มธ 21 : 1 - 11, มก 11 : 1 - 10, ลก 19 : 41) ที่ซึ่งพระองค์ทรงกันแสง (ลก 19 : 41 - 44) เมื่อเสด็จเข้าไปใกล้ พระเยซูตรัสทำนายถึงการทำลายกรุง (พระวิหาร) (มก 13 : 1 - 2) การเสด็จขึ้นสู่ สวรรค์จากภูเขานี้ 40 วันหลังจากฟื้นคืนพระชนม์ (มก 16 : 19, ลก 24 : 50 - 51, กจ 1 : 9 - 11) และที่ภูเขานี้พระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกเพื่อจะรวบรวมอาณาจักรทั้งสิ้น ของพระองค์ (ศคย 14) |
||||||||
![]() |
||||||||
สวนเกทเสมนี ความหมายน่าจะหมายถึงที่คั้นน้ำมัน ปัจจุบันสวนนี้ได้มีต้นมะกอกเทศ เก่าแก่ 8 ต้น ซึ่งนักพฤกษาศาสตร์เชื่อว่ามีอายุกว่า 3,000 ปี สวนนี้อยู่บริเวณเนินเขา มะกอกเทศ พระเยซูทรงตรัสให้สาวกของพระองค์อธิษฐาน (ลก 22 : 40) ขณะที่ สาวกหลับอยู่พระเยซูได้อธิษฐานอย่างเป็นทุกข์ (ลก 22 : 40 - 46, มก 14 : 32 - 42) ยูดาห์ได้นำเจ้าหน้าที่และทหาร (ยน 18 : 3) และได้แสดงความยินดี ีกับพระเยซูคริสต์ ด้วยการจุมพิต (ลก 22 : 47) เปโตรได้ตัดหูของทาสคนหนึ่งของปุโรหิตพระเยซู ทรงตำหนิเปโตรและทำการรักษาหูของนายทาสคนนั้น (ยน 18 : 10) เขาเหล่านั้น ได้จับพระเยซูและนำพระองค์ไปยังวิหารของปุโรหิต (ยน 18 : 12 - 27) โบสถ์นานา ชาติที่ตั้งอยู่ในสวนนี้เรียกว่า ศาลแห่งความทรมาน "หินแห่งความทรมาน" ที่พระเยซู อธิษฐาน สิ่งที่ก่อสร้างนั้นได้รับการสนับสนุนจาก 16 ชาติรวมทั้งสหรัฐอเมริกา |
||||||||
![]() |
||||||||
ไม้กางเขน (โกละโกธา) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองโบราณและอยู่ทางทิศเหนือของ อุโมงค์ค์เยเรมีห์ ชาวโปเตสแตนท์ เชื่อว่าพระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขนที่โกละโกธา (มธ 27 : 32 - 56, มก 15 : 21 - 24, ลก 23 : 26 - 45, ยน 19 : 16 - 37) คำพยากรณ์ถึงการวายพระชนม์พระเยซูคริสต์เจ้าเป็นจริง อุโมงค์ฝังศพของ พระเยซูเป็นของโยเซฟชาวอาริมาเธีย (มธ 27 : 60) เป็นอุโมงค์ใหม่ (ลก 23 : 53) หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู นิโคเดมัสและ โยเซฟชาวอาริมาเธีย ได้นำพระศพ ของพระองค์และเอาผ้าป่านพันหุ้มไว้ และประดิษฐานไว้ในอุโมงค์ สำหรับชาวคาทอริค เชื่อว่าอุโมงค์ฝังศพพระเยซูอยู๋ในโบสถ์ Holy Sepulcher ในกรุงเยรูซาเล็ม |
||||||||
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดในกาลิลี (รอบทะเลสาบ) | ||||||||
1. หมู่บ้านคานา งานสมรสที่หมู่บ้านคานาที่พระเยซูเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น ( ยอห์น2. 6-11) 2. ฟากแม่น้ำจอร์แดน พระเยซูได้รับบัพติศมาจากยอห์นที่แม่น้ำจอร์แดน |
||||||||
|
||||||||
3. การเริ่มต้นเทศนาบนภูเขา เรื่องผู้เป็นสุข 4. พระเยซูเสด็จมาที่กาลิลี และสาวกเด็ดรวงข้าวในวันสะบาโต 5. พระเยซูเลี้ยงคนห้าพันคนด้วยขนมปัง 5ก้อน และปลา 2 ตัว 6. พระเยซูได้เดินบนทะเล สาวกเห็นคิดว่าเป็นผี แต่พระเยซูบอกว่าอย่ากลัวเลย และเปโตรขอเดินบนน้ำไปหาพระเยซู 7. พระเยซู รักษาคนเจ็บ คนป่วย เขาขอแตะแค่ชายฉลองพระเยซู ด้วยความเชื่อผู้ใดแตะต้องแล้วก็หายป่วย |